ตั้งเป้าหมายส่งเสริม “กินดีอยู่ดี” ตั้งแต่คนจนถึงสัตว์เลี้ยง! “เนสท์เล่ ประเทศไทย” วางงบลงทุน 8,000 ล้าน ถึงปี 2569 กว่า 6,000 ล้าน เพื่อการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ ชี้ เทรนด์สัตว์เลี้ยงเติบโต แต่คนไทยเกินครึ่งยังดูแลไม่เก่ง 60% ให้หมาแมวกินอาหารคนด้วย
“เนสท์เล่”(Nestle’) มีโปรดักต์หลายอย่างที่ได้รับความนิยมในบ้านเรา เป็นที่รู้จักในฐานะยักษ์ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุดของโลก ครอบคลุมการจำหน่ายแทบทุกประเทศ
แม้ว่าที่ผ่านมา “เนสท์เล่”จะเติบโตจากธุรกิจอาหารคน แต่รู้หรือไม่ว่า “อาหารสัตว์เลี้ยง”เป็นอีกกลุ่มธุรกิจที่เนสท์เล่ให้ความสำคัญ สะท้อนจากงบการลงทุนตั้งแต่ปี 2564 ถึง 2569 ที่ “วิคเตอร์ เซียห์”ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า ให้ข้อมูลว่า มีการวางเงินลงทุนเพื่อขยายไลน์ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงมากถึง 6,000 ล้านบาท จากงบลงทุนทั้งหมด 8,000 ล้านบาท
ปัจจุบันพอร์ต โฟลิโอ อาหารสัตว์เลี้ยงของ “เนสท์เล่”มีทั้งหมด 6 แบรนด์ด้วยกัน ได้แก่ เพียวริน่า ฟริสกี้ส์ (Purina Friskies) เพียวริน่า อัลโป (Purina Alpo) เพียวริน่า วัน (Purina One) เพียวริน่า เฟลิกซ์ (Purina Felix) เพียวริน่า โปรแพลน (Purina Pro Plan) และเพียวริน่า ซุปเปอร์โค้ท (Purina Supercoat) โดยผู้บริหารเนสท์เล่นิยามให้ทั้งหมดเป็นอาหารสัตว์เลี้ยงแบบพรีเมียม
-“วิคเตอร์ เซียห์”ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า-
“วิคเตอร์ เซียห์”ฉายภาพเทรนด์ตลาดสัตว์เลี้ยงว่า ตั้งแต่ช่วงการแพร่ระบาดใหญ่เป็นต้นมา คนทำงานอยู่บ้านมากขึ้น มีเวลาใช้ชีวิตมากขึ้น ทำให้ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงเติบโตค่อนข้างมาก เมื่อมีเวลาก็อยากจะดูแลหมาแมวมากกว่าเดิม ซึ่งเทรนด์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในไทยแต่เกิดขึ้นทั่วโลก
เนสท์เล่คาดว่า ความนิยมในการเลี้ยงสัตว์จะยังดำเนินต่อไป ทำให้กลุ่มคนที่มีสัตว์เลี้ยงมีความในการดูแลเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงให้ดีมีประสิทธิภาพมากขึ้น หลายคนเริ่มหันมาศึกษาโภชนาการสัตว์เลี้ยงอย่างจริงจัง เป็นผลดีกับตัวสัตว์เลี้ยง และแน่นอนว่า มีส่วนในการช่วยขับเคลื่อน-ต่อยอดธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงของเนสท์เล่ด้วย
นอกจากนี้ ผู้บริหารเนสท์เล่ยังได้เปิดเผยเทรนด์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับตลาดสัตว์เลี้ยงในบ้านเราด้วยว่า ปัจจุบันตลาดสัตว์เลี้ยงในไทยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ คือกลุ่มคนที่ซื้ออาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ และกลุ่มที่ให้สัตว์เลี้ยงรับประทานอาหารแบบเดียวกับคนทั่วไป
พบว่า กลุ่มหลังมีสัดส่วนค่อนข้างสูงมากถึง 60% หลายคนยังให้สัตว์เลี้ยงกินอาหารแบบเดียวกับคน เพราะโภชนาการที่คนกับสัตว์เลี้ยงควรได้รับย่อมแตกต่างกัน ในฐานะผู้นำธุรกิจอาหารที่เติบโตมาจากอาหารคน จึงเป็นอีกโอกาสสำคัญที่เนสท์เล่จะได้เจาะตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงแบบพรีเมียมที่ถูกต้องตามหลักอย่างที่หมาแมวควรได้รับ
อย่างไรก็ตาม ภายใต้งบลงทุน 6,000 ล้านบาทนี้ จะเน้นไปที่การขยายไลน์การผลิตอาหารแมวเกรดซูเปอร์พรีเมียมชนิดเปียกและชนิดแห้ง ที่โรงงานเนสท์เล่ เพียวริน่า เพ็ทแคร์ ทั้งสองแห่ง เน้นไปที่การเพิ่มความหลากหลายของรสชาติและรูปแบบ วางกลุ่มเป้าหมายเป็นคนรักหมาแมวทั้งในประเทศและต่างประเทศที่มีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปีนั่นเอง
แท็กที่เกี่ยวข้องเนสท์เล่ตลาดสัตว์เลี้ยงตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงอาหารหมาแมวเนสท์เล่ ประเทศไทย相关文章:
相关推荐:
ไทยเบฟปรับทัพผู้บริหาร เสริมแกร่งองค์กรสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนยี่เก 'กรรมาธิการตำรวจ'เย็บย่าม ชิมอาหารไทยวน ที่ ‘บ้านเฮาโฮมเมด’ สระบุรีนายกฯเศรษฐา รับประกันเด็กอายุถึง 16 ปี ได้เงินดิจิทัลวอลเล็ตแน่นอนเฮ! ก.อุตฯ ปลดล็อคโซลาร์รูฟท๊อป ไม่ต้องขอใบอนุญาตโรงงาน ช่วยธุรกิจลดค่าไฟโซเชียลมีเดียของจีนบล็อกแฮชแท็กการเลือกตั้งไต้หวัน'Cult Wine' 'ไวน์แคลิฟอร์เนีย' แพงมหาโหด ต้องเงินหนาทั้งคนทำและคนดื่ม'อัด อวัช' เข้าชิงรางวัล 'Asian Film Awards''ดิลองกี้' ลุย! ธุรกิจเครื่องชงกาแฟ ลั่นแผนควบรวม 'ลา มาร์ซอคโค+เอเวอร์ซิส'นายกฯนิด' เปิดงานวันเด็ก มุ่งให้เด็กเรียนรู้ยอมรับความแตกต่าง
0.0644s , 8045.515625 kb
Copyright © 2024 Powered by สล็อต แพนด้า、กาแล็กซี่ออโต้ สล็อต、ทํา เทิ ร์ น สล็อต 20 บาท、สูตร เปอร์เซ็นต์ ชนะ สล็อต pg,ปทุมธานีไลฟ์เจอร์