“บูมเมอร์รุ่นสุดท้าย” เกษียณเพิ่ม 30 ล้านคน ส่วนใหญ่ไม่ได้เตรียมตัว เงินออมใกล้หมด-พึ่งประกันสังคมเลี้ยงชีพ สื่อนอกชี้ หวั่นกระทบเศรษฐกิจ นายจ้างเตรียมหาแรงงานรุ่นใหม่ทดแทน ด้านบูมเมอร์บางส่วนมอง ยังต้องทำงานต่อไปจนแก่ตายถึงอยู่รอด
เบบี้บูมเมอร์(Baby Boomer) คือกลุ่มคนที่เกิดตั้งแต่ปี 2489 ถึง 2507 ปีนี้ซึ่งตรงกับปี 2567 กลุ่ม “บูมเมอร์รุ่นสุดท้าย”หรือ “Peak-boomer”จะมีอายุครบ 60 ปี และเข้าสู่การเกษียณอายุงาน
ในอดีตเราอาจมองว่าวัยเกษียณ คือช่วงเวลาที่จะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ หลังจากทำงานมาอย่างหนักทั้งชีวิต แต่ในยุคที่เศรษฐกิจซบเซา ข้าวของราคาแพงเช่นนี้ วัยเกษียณอาจกลายเป็นฝันร้ายของใครหลายคน โดยเฉพาะกลุ่ม “Peak-boomer” ที่ส่วนใหญ่ยังไม่มีความพร้อมทางการเงิน ไร้เงินออม และมองว่า ตนเองต้องทำงานไปจนตายจึงจะมีชีวิตรอดต่อไปได้
ข้อมูลจากสำนักข่าวบิซิเนส อินไซเดอร์ (Business Insider) ระบุว่า ตลอดทั้งปี 2567 จะมีกลุ่มเบบี้บูมเมอร์เกษียณเพิ่มอีก 30 ล้านคน รายงานจาก “Alliance for Lifetime Income” ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนหลังเกษียณระบุว่า
หลายคนในกลุ่ม “Peak-boomer” กำลังเผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจ อาจก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายที่พุ่งสูงตามมา สำหรับคนทำงานที่ยังอยู่ในระบบ
จากการวิเคราะห์ข้อมูลของ ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ “Fed”และส่วนงานศึกษาด้านสุขภาพและการเกษียณ มหาวิทยาลัยมิชิแกน (University of Michigan Health and Retirement Study) พบว่า 52.5% ของคนบูมเมอร์รุ่นสุดท้าย มีสินทรัพย์ 250,000 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยราว “9.2 ล้านบาท” หรือน้อยกว่านั้น
ซึ่งหมายความว่า คนกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะใช้เงินออมจนหมด และหันมาพึ่งพาประกันสังคมแทน ส่วนอีก 14.6% มีสินทรัพย์ 500,000 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยราว “18.4 ล้านบาท” หรือน้อยกว่านั้น รายงานชิ้นนี้จึงสรุปผลออกมาว่า เกือบ 2 ใน 3 ของคนกลุ่มนี้ มีแนวโน้มจะเครียด และวิตกกังวลตลอดช่วงวัยการเกษียณอายุงาน
ด้าน “โรเบิร์ต ชาปิโร”(Robert Shapiro) อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ให้ความเห็นว่า การเกษียณอายุกลายเป็นความท้าทายทันที เนื่องจากพวกเขาขาดรายได้ที่ปลอดภัย ตรงกันข้ามกับกลุ่มบูมเมอร์รุ่นแรกๆ ที่ได้รับเงินบำนาญจำนวนมาก และยังมีเงินออมที่สูงกว่าด้วย
นอกจากนี้ พบว่า คลื่นคนบูมเมอร์รุ่นสุดท้ายที่เกษียณอายุพร้อมกันอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ ขณะนี้นายจ้างกำลังเร่งหาแรงงานทดแทนเข้าสู่ระบบประมาณ 14.8 ล้านคน อุตสาหกรรมที่มีความต้องการสูง ได้แก่ การผลิต สุขภาพ การศึกษา ระหว่างนี้อาจทำให้ผลผลิตโดยรวมลดลงไปชั่วขณะ
บิซิเนส อินไซเดอร์ วิเคราะห์ว่า วิกฤติครั้งนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของแผนการเกษียณที่ก่อนหน้านี้จะได้รับเงินอุดหนุนจากนายจ้างมาช่วยสมทบ ทว่าถูกปรับเปลี่ยนเป็นแผนที่รู้จักกันในชื่อ “401k” แผนการลงทุนการเกษียณที่ผู้ลงทุนต้องหักเงินเดือนเพื่อเข้าสะสม ซึ่งก็พบว่า มีคนอเมริกันเพียง 24% เท่านั้น ที่ถือเงินบำนาญก้อนนี้
หากดูตัวเลขรายได้ของกลุ่มคนเกษียณพบว่า ชาวอเมริกันมีรายได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น มากกว่า 50% ของวัยเกษียณ มีรายได้ 300,000 ดอลลาร์ต่อปี หรือน้อยกว่านั้น ในกลุ่มนี้สัดส่วนที่มีมากที่สุด คือกลุ่มที่มีรายได้ 10,000 ถึง 19,000 ดอลลาร์ต่อปี หรือคิดเป็นเงินไทยราว 369,935 ถึง 702,876 บาท ทำให้ชาวอเมริกันวัยเกษียณหลายคนในกลุ่ม “Peak-boomer”บอกว่า พวกเขาอาจต้องทำงานต่อไปจนกว่าจะตายหรือทุพพลภาพ จึงจะมีชีวิตอยู่รอดได้
“เฉพาะคนรวยเท่านั้นที่จะอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีในวัยชรา พวกเราที่เหลือทำได้แค่สวดภาวนาให้คนกลุ่มอื่นๆ ตายในขณะที่ยังมีงานทำ เพราะไม่มีใครอยากตายอยู่ข้างถนน” แหล่งข่าวอายุ 58 ปี ให้สัมภาษณ์ปิดท้าย
อ้างอิง: Business Insider
แท็กที่เกี่ยวข้องการเงินวัยเกษียณเกษียณอายุเบบี้บูมเมอร์ไร้เงินออม相关文章:
相关推荐:
How High Times Thailand keep the price so low compared to other dispensariesThai influencer Sebow faces charges for promoting online gamblingอ.แมน นะดากทอง พบ ตร.ไซเบอร์ จ่อแจ้งข้อหาโพสต์ภาพลามก พบคลิปสยิวเพียบThailand tightens cannabis regulation for medical use onlyExplore the Midมวลอากาศเย็นอาร์กติกปกคลุมสหรัฐฯ กระทบปชช. 95 ล้านคนเสื้อกันหนาวได้ทำงานต่อ มีลุ้น "หนาว" อีกระลอก ช่วงปลายเดือน ม.ค.Tae Injured After Motorcycle Loses Control During StuntFly with Thai Airways to Milan & Oslo in StyleGold prices in Thailand experience an increase of 50 baht
1.0048s , 8023.859375 kb
Copyright © 2024 Powered by สล็อต เว็บใหญ่ pg、เกม สล็อต ค่าย pg 888、สล็อต pg ด รา ก้อน、sunstar สล็อต,ปทุมธานีไลฟ์เจอร์