กรณี นายกฯ เรียกนายแบงก์มาหารือเรื่องลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางนั้นต้องรอดูว่าสมาคมธนาคารไทย จะออกมาตรการลดดอกเบี้ยในส่วนของ MRR (ดอกเบี้ยสำหรับลูกหนี้รายย่อย) ตามกรอบแนวคิดของนายกฯ หรือไม่
ภาพที่นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง “เศรษฐา ทวีสิน” เรียกนายแบงก์ 4 แห่ง ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ และ ธนาคารกรุงไทย มาหารือเพื่อขอร้องให้พิจารณาลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือกลุ่มประชาชนที่เปราะบาง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเอสเอ็มอีและประชาชนรายย่อย ที่เดือดร้อนจากปัญหาดอกเบี้ยสูง
มีคำถามมาว่า “เป็นการแทรกแซง” การทำหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ “แบงก์ชาติ” หรือไม่ เพราะตามธรรมเนียมปฏิบัติ “นายกฯ ต้องหารือผู้ว่าฯแบงก์ชาติ” จากนั้น “ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติจะไปหารือธนาคารพาณิชย์” ให้พิจารณาลดดอกเบี้ยโดยอิงตามดอกเบี้ยนโยบายคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจึงย้อนแย้งกับสิ่งที่ควรจะเป็น
ที่ผ่านมา “รัฐบาล” พยายามส่งสัญญาณให้ “แบงก์ชาติ” ลดดอกเบี้ยนโยบาย แต่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2567 ก็ยังมีมติ 5 ต่อ 2 เสียงให้คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ 2.5 เช่นเดิม เป็นการยืนยันท่าทีในการรักษาอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้อย่างแข็งขัน
ล่าสุด “ปิติ ดิษยทัต” ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ออกมายืนยันว่า กนง. พร้อมที่จะทบทวนนโยบายอัตราดอกเบี้ย หากมีข้อมูลใหม่เข้ามาเพิ่มเติม และส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงต่อมุมมองเศรษฐกิจไทยอย่างมีนัยสำคัญ แต่เขามองว่าปีนี้และปีหน้ามีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวใกล้เคียงระดับศักยภาพ ซึ่งอัตราดอกเบี้ย และภาวะการเงินโดยรวมก็ยังสอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันแล้ว
ดังนั้น จึงต้องรอดูว่าสมาคมธนาคารไทยจะออกมาตรการช่วยเหลือกลุ่มผู้เปราะบางด้วยการปรับลดดอกเบี้ยในส่วนของ MRR (อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกหนี้รายย่อย) ตามกรอบแนวคิดที่ “นายกรัฐมนตรี” พยายามสื่อสารออกมาหรือไม่ ซึ่งหากทำตามมาตรการนี้ผู้ที่รับอานิสงส์ก็จะเป็นผู้กู้ที่มีภาระผ่อนบ้าน หรือจะเป็นมาตรการลดดอกเบี้ยแบบตรงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ซึ่งในอดีตธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีการขอความร่วมมือแบงก์พาณิชย์ ลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อช่วยลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 กลุ่มเปราะบางและเอสเอ็มอี
ที่สำคัญการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางสามารถทำได้ ตั้งแต่การลดการผ่อนชำระต่างๆ ออกมาตรการช่วยเหลือหากลูกหนี้ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ หรือสนับสนุนวงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อเอื้อให้เอสเอ็มอีสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายมากขึ้น
แต่หากการลดดอกเบี้ยในครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะ “นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง” ขอร้องให้ดำเนินการ อาจสร้างความไม่เข้าใจให้กับนักลงทุนได้ เพราะดอกเบี้ยคือรายได้ เป็นดอกผลที่นักลงทุนต้องการ หากลดดอกเบี้ยก็เท่ากับรายได้หดหายไป จะอธิบายอย่างไรให้ผู้ถือหุ้นเข้าใจว่าเป็นการกระทำเพื่อช่วยลดภาระลูกหนี้ ที่สำคัญรัฐบาลไทยจะอธิบายต่อนักลงทุนอย่างไรว่า เป็นการแทรกแซงที่ทำเพื่อประชาชน
แท็กที่เกี่ยวข้องเศรษฐกิจแบงก์ชาติธนาคารแห่งประเทศไทยกนง.นโยบายการเงินดอกเบี้ยนโยบายEconomicกลุ่มเปราะบางเศรษฐา ทวีสินบทบรรณาธิการ
相关文章:
相关推荐:
กลับมาเปิดให้บริการแล้ว ถนนหน้าวัดบ่อ ปากเกร็ด หลังทรุดตัวลึก 4 เมตรหวยลาว 10 เมษายน 2567 ตรวจหวยลาววันนี้สิ้น สมณะโพธิรักษ์ ผู้ก่อตั้งสำนักสันติอโศก มรณภาพด้วยวัย 90 ปีThailand's revolutionary fight against air pollutionฝ่าด่านอันตราย “เสือแบล็ค” ได้คิวดวลมวยรัสเซีย “วลาดิเมียร์” ศึก ONE Fight Night 21สรุปดราม่า แฟนคลับเดือด ผจก.มินนี่ (G)Iรวบชายญี่ปุ่นเพี้ยน เปลือยก้นถูก๊อกน้ำ สนองอารมณ์ กลางสวนสาธารณะโตเกียว‘สุทิน’ สอนมวย ‘พรรคก้าวไกล’ อภิปรายไม่ดุเลยโปรแกรม บุนเดสลีกา เยอรมัน 2023/24 สัปดาห์ที่ 29 เตะ 12ย้อนชมคลิปสุดท้าย เบียร์ สรณัฐ ก่อนเสียชีวิต ครอบครัวใจหาย จะไม่ได้เจอกันอีก
0.0381s , 8036.9453125 kb
Copyright © 2024 Powered by bet365 it、หวย ลาว วัน ที่ 13、หวย ลาว 11 10 66、หวย หุ้น รัสเซีย ย้อน หลัง,ปทุมธานีไลฟ์เจอร์